O3 : กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

 

กฎหมายใหม่ที่ประชาชนควรทราบ

พระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ.2565

พระราชบัญญัติ ป้องกันและปราบปราม การทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565

พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2565

พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2565

แนวทางการปฏิบัติตามกฎหมาย

แนวปฏิบัติในการจับหรือค้น

มาตรการป้องกันกันการแทรกแซง การใช้ดุลยพินิจ

แนวปฏิบัติในการใช้ดุลยพินิจไม่รับคำร้องทุกข์ในคดีอาญา

สิทธิของผู้เสียหายหรือเหยื่ออาญากรรมและสิทธิผู้ต้องหา

ระเบียบ/คำสั่ง

คำสั่ง ตร. ที่ 419/2556 เรื่องการอำนวยความยุติธรรมในคดีอาญา การทำสำนวนการสอบสวนและมาตรการควบคุม ตรวจสอบเร่งรัดสำนวนคดีอาญาคำสั่ง ตร.ที่ 551/2566 เรื่อง การบันทึกภาพและเสียงในขณะจับและควบคุมตัว การบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับผู้ถูกควบคุมการแจ้งกรณีที่ผู้ถูกควบคุมตัวถึงแก่ความตาย และการแจ้งเหตุคดีให้พนักงานอัยการทราบ ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565

แนวทางการปฎิบัติตามกฎหมาย

การพกพาวิทยุสื่อสารของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

วิทยุสื่อสาร อุปกรณ์สื่อสารระยะใกล้ | MISUMI Thailand

      เจ้าหน้าที่ตำรวจมีอำนาจตามกฏหมายในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางอาญา รักษาความสงบเรียบร้อย ความปลอดภัยของประชาชนและความมั่นคงของราชอาณาจักร
      ในกรณีที่มีประชาชนสอบถามเกี่ยวกับการพกพาวิทยุสื่อสาร ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังใช้ในการปฏิบัติหน้าที่นั้น โดยอ้างว่า “ห้ามมิให้ผู้ใด ทำ มี ใช้ นำเข้า นำออก หรือค้าส่งเครื่องวิทยุคมนาคมเว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต ฯลฯ หากฝ่าฝืนจะมีความผิดต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ” นั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถชี้แจงให้ประชาชนทราบได้ว่า
      เจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถใช้วิทยุสื่อสารราชการ ในการปฏิบัติหน้าที่ได้ โดยไม่ต้องได้รับใบอนุญาต และพกพาใบอนุญาตแต่อย่างใด ทั้งนี้ปรากฎตาม พ.ร.บ.วิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498 ที่บัญญัติไว้ว่า “เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถใช้วิทยุสื่อสารทั่วราชอาณาจักรโดยไม่ต้องมีใบอนุญาตจาก คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ แต่ต้องพกบัตรประจำตัวที่หน่วยงานออกให้ติดตัวเสมอ” ประกอบกับ กฎกระทรวง กำหนดให้เครื่องวิทยุคมนาคมและสถานีวิทยุคมนาคมบางประเภทได้รับยกเว้นไม่ต้องรับใบอนุญาต พ.ศ.2547
      เจ้าหน้าที่ตำรวจควรชี้แจงข้อกฎหมายให้ประชาชนทราบ ด้วยวาจาสุภาพเรียบร้อย เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบและเข้าใจในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่หลังจากนั้นหากบุคคลดังกล่าวมีการกระทำอื่นใด อันเป็นการขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งชอบด้วยกฎหมายของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น บุคคลดังกล่าวจะมีความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา